วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์เก๋งที่จอดอยู่กลางเมืองภูเก็ต

เมื่อเวลาประมาณ23.10น.วันที่25ตุลาคมนี้ศูนย์วิทยุภูเก็ตรับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่ามีเพลิงลุกไหม้รถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ในซอยด้านข้างคลินิกรักฟันและพื้นที่จอดรถใกล้เคียงกับร้านหอแว่น ถนนภูเก็ตในเวลาต่อมาได้ติดต่อขอสนับสนุนรถน้ำและรถดับเพลิงจำนวน3คันจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ตเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังอาคารใกล้เคียง

ทั้งนี้พันตำรวจโทชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รองผกก.ปป.สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยพันตำรวจโทจรัญ บุญโสภาพ สวป. ทำหน้าที่สารวัตรเวรพร้อมด้วยคณะและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ และพบว่ามีพนักงานดับเพลิงได้ช่วยกันนำถังเคมีดับเพลิงพ่นรวมทั้งรถน้ำและรถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดไว้สำเร็จ โดยใช้เวลาประมาณ20นาทีและตรวจสอบพบว่าเพลิงลุกไหม้จากรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโอเปิล รุ่นคอร์ซ่า สีดำ ป้ายทะเบียน กข 5280ภูเก็ตจนเสียหายทั้งคัน ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นอกจากนี้เพลิงยังไหม้ป้ายพลาสติกของคลินิกรักฟันและตัวอาคารเล็กน้อยด้วย


พนักงานสอบสวน สอบถามประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 23.00น. กลุ่มประชาชนที่รับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งได้กลิ่นควันไฟและพบว่า ต้นเพลิงมาจากรถยนต์คันเกิดเหตุ โดยมีนายจีระศักดิ์ หนักแน่น อายุ 53 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยคุณเล็ก เลขที่ 218/2 ถนนภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ที่ตั้งอยู่เยื้องที่รถจอดอยู่ ไปเล็กน้อยเป็นเจ้าของและพนักงานสอบสวนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนำแผงกั้นมาล้อมพื้นที่รถยนต์เพลิงไหม้เอาไว้และประสานงานให้ตำรวจวิทยาการเขต 44 ภูเก็ต มาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพลิงไหม้นี้ต่อไป

นายจีระศักดิ์ หนักแน่นให้การว่า นำรถมาจอดในที่เกิดเหตุเป็นประจำเพราะเป็นที่จอดสาธารณะ และก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ นำมาจอดไว้ เมื่อประมาณ 2 วันที่แล้ว ไม่มีปัญหาหรือมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ใด สำหรับรถคันนี้ซื้อมือสอง มาจากประชาชนชาวตำบลเชิงทะเล อำเภอถลางรายหนึ่งในราคาเพียง85,000บาทและเจ้าของรถเดิมจริงๆคือภรรยาของพันตำรวจโทสัญญา ทองสวัสดิ์ รอง ผกก.ปป.สถานีตำรวจภูธรบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนำมาซ่อมแซมและพ่นสีใหม่ส่วนภายในรถนั้นไม่มีการซ่อมแซมดัดแปลงแต่อย่างใด นอกจากเคยนำรถไปใช้บริการเกี่ยวกับระบบไฟที่ร้านภูเก็ตการไฟฟ้าเมื่อเร็วๆนี้เท่านั้น

ข้อมูลจาก :: ชัยวุฒิ พวงสุวรรณ สวท. ภูเก็ต

ไม่มีความคิดเห็น: