เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลัก ฐานจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจสอบร่องรอยกระสุนปืนเหตุคนร้ายลอบยิงกำนันตำบลกะรน พร้อมเพื่อนแต่กระสุนพลาดไปถูกรถตู้ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงแทน
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 24 ก.ย.54 เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปรามสถานีตำรวจภูธรฉลอง และร้อยเวร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ นายณรงค์ แซ่มิ่น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/12 ซอยปฏัก 22 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่บริเวณถนนปฏักปากซอย 9 ต.กะรน โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 00.50 น.วันนี้ มีคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงเข้าใส่นายวินัยและนายณรงค์จำนวน 1 นัด ขณะจอดรถคุยกันที่บริเวณปากซอยดังกล่าวแต่โชคดีกระสุนปืนไม่โดนใคร หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหนีไป โดยนายวินัยได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงเช้าวันนี้ จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณด้านหลังรถตู้ซึ่งจอดอยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายยิง ประมาณ 10 เมตร มีร่องรอยถูกกระสุนปืนลูกซองจำนวน 8 จุดซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและจัดเก็บหลักฐานต่างๆเรียบร้อยแล้ว
นายวินัย กล่าวว่า เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุตนขับรถจักยานยนต์กลับจากงานศพของชาวบ้านในซอย 9 ถนนปฏักเพื่อกลับบ้านพักซึ่งอยู่ใกล้กันเมื่อมาที่เกิดเจอเพื่อนคือนายณรงค์ จึงได้จอดรถทักทายกันและมีรถกระบะขับมาจอดเทียบห่างจุดที่ตนอยู่ประมาณ 3 เมตร พร้อมตะโกนเรียกตนหันไปมองเห็นคนร้ายถืออาวุธปืนลูกซองและยิงเข้าใส่ทันที จำนวน 1 นัด ซึ่งตนหลบทันจึงไม่โดนกระสุนปืนที่ยิงเข้าใส่ หลังจากนั้นคนร้ายซึ่งมากัน 2 คน ได้ขับรถยนต์กระบะ สีเขียวหมายเลขทะเบียน3813 ตรัง แต่จำหมวดอักษรไม่ได้หลบหนีไปทางเส้นทางป่าตอง ส่วนตนได้แจ้งไปยังเพื่อนที่เป็นตำรวจให้ช่วยสกัดจับแต่ไร้วี่แวว ซึ่งตนจำหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ส่วนสาเหตุการณ์ลอบยิงในครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งหลายเรื่อง
ขณะที่พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปรามสถานีตำรวจภูธรฉลอง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อ เหตุแล้วรวมทั้งมีการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้เสียหายทั้งในส่วน ของกำนันวินัย และ นายณรงค์ ซึ่งประเด็นการลอบสังหารในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตั้งไว้หลายประเด็น ส่วนเป้าหมายในการก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่แน่ใจว่าคนร้ายต้องการสังหารใคร ระหว่างนายวินัย และนายณรงค์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนต่อไปเพื่อนำตัวคนร้ายมาลงโทษ โดยเร็ว
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 24 ก.ย.54 เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปรามสถานีตำรวจภูธรฉลอง และร้อยเวร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ นายณรงค์ แซ่มิ่น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/12 ซอยปฏัก 22 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่บริเวณถนนปฏักปากซอย 9 ต.กะรน โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 00.50 น.วันนี้ มีคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงเข้าใส่นายวินัยและนายณรงค์จำนวน 1 นัด ขณะจอดรถคุยกันที่บริเวณปากซอยดังกล่าวแต่โชคดีกระสุนปืนไม่โดนใคร หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหนีไป โดยนายวินัยได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงเช้าวันนี้ จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณด้านหลังรถตู้ซึ่งจอดอยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายยิง ประมาณ 10 เมตร มีร่องรอยถูกกระสุนปืนลูกซองจำนวน 8 จุดซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและจัดเก็บหลักฐานต่างๆเรียบร้อยแล้ว
นายวินัย กล่าวว่า เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุตนขับรถจักยานยนต์กลับจากงานศพของชาวบ้านในซอย 9 ถนนปฏักเพื่อกลับบ้านพักซึ่งอยู่ใกล้กันเมื่อมาที่เกิดเจอเพื่อนคือนายณรงค์ จึงได้จอดรถทักทายกันและมีรถกระบะขับมาจอดเทียบห่างจุดที่ตนอยู่ประมาณ 3 เมตร พร้อมตะโกนเรียกตนหันไปมองเห็นคนร้ายถืออาวุธปืนลูกซองและยิงเข้าใส่ทันที จำนวน 1 นัด ซึ่งตนหลบทันจึงไม่โดนกระสุนปืนที่ยิงเข้าใส่ หลังจากนั้นคนร้ายซึ่งมากัน 2 คน ได้ขับรถยนต์กระบะ สีเขียวหมายเลขทะเบียน3813 ตรัง แต่จำหมวดอักษรไม่ได้หลบหนีไปทางเส้นทางป่าตอง ส่วนตนได้แจ้งไปยังเพื่อนที่เป็นตำรวจให้ช่วยสกัดจับแต่ไร้วี่แวว ซึ่งตนจำหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ส่วนสาเหตุการณ์ลอบยิงในครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งหลายเรื่อง
ขณะที่พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปรามสถานีตำรวจภูธรฉลอง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อ เหตุแล้วรวมทั้งมีการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้เสียหายทั้งในส่วน ของกำนันวินัย และ นายณรงค์ ซึ่งประเด็นการลอบสังหารในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตั้งไว้หลายประเด็น ส่วนเป้าหมายในการก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่แน่ใจว่าคนร้ายต้องการสังหารใคร ระหว่างนายวินัย และนายณรงค์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนต่อไปเพื่อนำตัวคนร้ายมาลงโทษ โดยเร็ว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น