แม่ เด็กหญิง ป.6 โรงเรียนบ้านตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ร้องสื่อลูกสาวเล่นเฟสบุ๊ค หายออกจากบ้านไป 3 วันไม่ทราบชะตากรรม แจ้งความแล้วยังไม่พบเบาะแส เชื่อว่าอาจถูกลักพาตัว
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.นางสำรวย แสนทวีสุข อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/173 หมู่ 1 ตำบลวิชิต อ.เมืองภูเก็ต ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ว่าลูกสาวหายตัวออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2554 ขณะนี้ยังไม่กลับบ้านและไม่มีการติดต่อกลับมา
โดย ระบุว่า ลูกสาวชื่อ เด็กหญิงสมัชญา ญาณปัญญา ชื่อเล่นน้องปิ่น อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6/1 โรงเรียนบ้านตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต อาศัยอยู่กับบิดาและปู่ย่า เนื่องจากพ่อแม่ได้แยกกันอยู่ ที่บ้านเลขที่ 22 /24 หมู่ 1 ตำบลวิชิต ทั้งนี้ ลูกสาวได้หายตัวไป เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม โดยในวันดังกล่าว ลูกสาวไม่ได้ไปโรงเรียน ได้บอกกับปู่ว่ามีธุระ และได้ไปเล่นเน็ตที่ร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่งบริเวณปากซอยหล่อโรง อ.เมืองภูเก็ต หลังจากออกจากร้านเน็ต ก็หายตัวไปไม่ได้ติดต่ออีกเลย
นางสำรวย กล่าวว่า ตนได้ไปสอบถามเพื่อนสนิทของลูกสาวที่โรงเรียนบ้านตลาดเหนือ ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าน้องปิ่นหายไปไหน ทราบแต่ว่า ในวันที่ 6 ลูกสาวได้ไปเล่นเฟสบุ๊ค ที่ร้านอินเทอร์เน็ต เพราะรู้จักสนิทสนมกับเด็กภายในร้าน ตนจึงได้ไปสอบถามเจ้าของและพนักงานร้านเน็ตดังกล่าว ก็ไม่มีผู้ใดรู้สาเหตุที่น้องปิ่นหายไป ทางร้านยังได้เปิดกล้องวงจรปิดของร้านให้ตนดู พบว่า ลูกสาวได้มาเล่นเน็ตที่ร้านจริง มีการเข้า-ออกจากร้าน 2-3 ครั้ง ส่วนภาพครั้งสุดท้ายที่น้องปิ่นเดินออกจากร้านก็ไม่พบว่า มีอาการรีบร้อนหรือพิรุธแต่อย่างใด นางสำรวย ยังระบุว่า ปกติน้องปิ่นชอบเล่นเฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า Pinnee smile ผู้สื่อข่าวจึงได้เปิดเฟสบุ๊คตามชื่อดังกล่าว พบว่า มีรูปน้องปิ่นในชุดนักเรียนบนโปรไฟล์ ส่วนข้อมูลอัพเดทล่าสุด มีการเล่นเกมลูกมดสู้ๆ ในเวลา 12.08 น.ของวันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2554 คาดว่าเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะหายตัวไป ส่วนเพื่อนในเฟสบุ๊คมีจำนวน 295 คน มีทั้งชายและหญิงส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและวัยรุ่น
นางสำรวย กล่าวว่า หลังจากลูกสาวหายตัวไป ได้ไปแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.เมืองภูเก็ต แต่ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้เบาะแสใดๆ ขณะที่ญาติได้นำวันเดือนปีเกิดลูกสาว ไปให้หมอดูได้ดูดวงชะตา หมอดูบอกว่า ลูกสาวไปเที่ยวกับหญิงสาวเป็นทอมมีเงิน ส่วนหมอดูอีกคนบอกว่า น้องปิ่น ได้ไปกับชายวัย 40 ปี ชื่อลุงดำ ที่เป็นเพื่อนบ้านมีอาชีพเป็นม้าทรงศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งในวันที่ 6ธันวาคม ลุงดำ ได้พบกับน้องปิ่นภายในร้านเน็ตและได้กล่าวกับลูกสาวว่า ไปกับลุงมั๊ย ตนจึงได้ไปพบชายม้าทรงและเล่าถึงการหายไปของลูกสาว แต่ก็ไม่พบว่า ลุงดำมีพิรุธแต่อย่างใด
“เชื่อว่า ลูกสาวหายตัวไป เพราะอาจจะมีคนลักพาตัวไปอย่างแน่นอน พร้อมกับวิงวอนตำรวจที่ทำคดี ได้กระตือรือร้นในการติดตามตัวและสืบสวนหลักฐานจากเพื่อนให้ลูกสาวได้กลับมาโดยเร็ว”นางสำรวยกล่าวในสุด
โดย ระบุว่า ลูกสาวชื่อ เด็กหญิงสมัชญา ญาณปัญญา ชื่อเล่นน้องปิ่น อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6/1 โรงเรียนบ้านตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต อาศัยอยู่กับบิดาและปู่ย่า เนื่องจากพ่อแม่ได้แยกกันอยู่ ที่บ้านเลขที่ 22 /24 หมู่ 1 ตำบลวิชิต ทั้งนี้ ลูกสาวได้หายตัวไป เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม โดยในวันดังกล่าว ลูกสาวไม่ได้ไปโรงเรียน ได้บอกกับปู่ว่ามีธุระ และได้ไปเล่นเน็ตที่ร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่งบริเวณปากซอยหล่อโรง อ.เมืองภูเก็ต หลังจากออกจากร้านเน็ต ก็หายตัวไปไม่ได้ติดต่ออีกเลย
นางสำรวย กล่าวว่า ตนได้ไปสอบถามเพื่อนสนิทของลูกสาวที่โรงเรียนบ้านตลาดเหนือ ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าน้องปิ่นหายไปไหน ทราบแต่ว่า ในวันที่ 6 ลูกสาวได้ไปเล่นเฟสบุ๊ค ที่ร้านอินเทอร์เน็ต เพราะรู้จักสนิทสนมกับเด็กภายในร้าน ตนจึงได้ไปสอบถามเจ้าของและพนักงานร้านเน็ตดังกล่าว ก็ไม่มีผู้ใดรู้สาเหตุที่น้องปิ่นหายไป ทางร้านยังได้เปิดกล้องวงจรปิดของร้านให้ตนดู พบว่า ลูกสาวได้มาเล่นเน็ตที่ร้านจริง มีการเข้า-ออกจากร้าน 2-3 ครั้ง ส่วนภาพครั้งสุดท้ายที่น้องปิ่นเดินออกจากร้านก็ไม่พบว่า มีอาการรีบร้อนหรือพิรุธแต่อย่างใด นางสำรวย ยังระบุว่า ปกติน้องปิ่นชอบเล่นเฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า Pinnee smile ผู้สื่อข่าวจึงได้เปิดเฟสบุ๊คตามชื่อดังกล่าว พบว่า มีรูปน้องปิ่นในชุดนักเรียนบนโปรไฟล์ ส่วนข้อมูลอัพเดทล่าสุด มีการเล่นเกมลูกมดสู้ๆ ในเวลา 12.08 น.ของวันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2554 คาดว่าเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะหายตัวไป ส่วนเพื่อนในเฟสบุ๊คมีจำนวน 295 คน มีทั้งชายและหญิงส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและวัยรุ่น
นางสำรวย กล่าวว่า หลังจากลูกสาวหายตัวไป ได้ไปแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.เมืองภูเก็ต แต่ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้เบาะแสใดๆ ขณะที่ญาติได้นำวันเดือนปีเกิดลูกสาว ไปให้หมอดูได้ดูดวงชะตา หมอดูบอกว่า ลูกสาวไปเที่ยวกับหญิงสาวเป็นทอมมีเงิน ส่วนหมอดูอีกคนบอกว่า น้องปิ่น ได้ไปกับชายวัย 40 ปี ชื่อลุงดำ ที่เป็นเพื่อนบ้านมีอาชีพเป็นม้าทรงศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งในวันที่ 6ธันวาคม ลุงดำ ได้พบกับน้องปิ่นภายในร้านเน็ตและได้กล่าวกับลูกสาวว่า ไปกับลุงมั๊ย ตนจึงได้ไปพบชายม้าทรงและเล่าถึงการหายไปของลูกสาว แต่ก็ไม่พบว่า ลุงดำมีพิรุธแต่อย่างใด
“เชื่อว่า ลูกสาวหายตัวไป เพราะอาจจะมีคนลักพาตัวไปอย่างแน่นอน พร้อมกับวิงวอนตำรวจที่ทำคดี ได้กระตือรือร้นในการติดตามตัวและสืบสวนหลักฐานจากเพื่อนให้ลูกสาวได้กลับมาโดยเร็ว”นางสำรวยกล่าวในสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น