จังหวัดภูเก็ตเตรียมจัดงาน “สับปะรดภูเก็ตและงานไม้ดอกไม้ประดับ” ประจำปี 2553 ระหว่าง 9-18 ก.ค.นี้ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน เน้นส่งเสริมไม้ผลพืชประจำถิ่นยกระดับขึ้นเป็นไม้ผลเอกลักษณะโดยเฉพาะสับปะรดภูเก็ตเพื่อให้ตรึงใจนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคทั่วไป “มาภูเก็ตต้องกินสับปรดภูเก็ต” มั่นใจงานดังกล่าวทำรายได้สะพัดกว่า 10 ล้านบาท พร้อมส่งเสริมตลาดไม้ดอกไม้ประดับเหตุมีความต้องการสูงแต่ละปีทำรายได้ให้เกษตรกรไม่น้อยกว่า 250 ล้านบาท
นายประพาส บุญสุข เกษตรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ตร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ และจังหวัดภูเก็ต จัดงาน “สับปะรดภูเก็ตและงานไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดภูเก็ต” ประจำปี 2553 ขึ้น โดยการจัดงานดังกล่าวจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและครั้งนี้เป็นปีที่ 18 ของการจัดงานไม้ดอกไม้ประดับของจังหวัดภูเก็ตแล้ว แต่ถือเป็นการจัดงานครั้งแรกของงานสับปะรดภูเก็ต ซึ่งเกิดจากการบูรณาการความคิดการจัดงาน 3 งานมารวมเป็นงานเดียวภายใต้ชื่อ “สับปะรดภูเก็ตและงานไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดภูเก็ต” ประจำปี 2553
สืบเนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มอบนโยบายด้านการเกษตรให้กับสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ตโดยให้เน้นประชาสัมพันธ์ไม้ผลที่เป็นพืชประจำถิ่นของจังหวัดภูเก็ตและนำมายกระดับขึ้นเป็นไม้ผลเอกลักษณ์จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะ “สับปะรดภูเก็ต” ซึ่งเป็นผลไม้ที่คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมรับประทาน เนื่องจากรสชาติอร่อย หวาน กรอบ กลิ่นหอม เยื่อใยน้อย แต่การจะรับประทานสัปรดภูเก็ตให้อร่อยและได้รสชาติของสับปะรดภูเก็ตจริงจะต้องรับประทานสับปะรดที่ปลูกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจริงๆเท่านั้น เพราะมีสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมทั้งอุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝนและกลุ่มชุดดินของจังหวัดภูเก็ต ที่ส่งผลต่อคุณภาพของผลผลิตสับปะรดภูเก็ต ซึ่งจะแตกต่างกับสับปะรดที่ปลูกแหล่งอื่นแม้จังหวัดใกล้เคียงกันก็ตาม
“ในปีนี้ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ตจึงใช้สับปะรดภูเก็ตเป็นชื่องานเพื่อที่จะเน้นการประชาสัมพันธ์ให้สับปะรดภูเก็ตเป็นผลไม้เอกลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตรวมทั้งสร้างแรงดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคทั่วไปให้รู้ว่า “มาภูเก็ตจะต้องกินสับปะรดภูเก็ต หรือเวลานึกถึงภูเก็ตก็ต้องนึกถึงสับปะรดภูเก็ตเคียงคู่ไปด้วย” ซึ่งสับปะรดภูเก็ตนั้นได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ข้อบงชี้ทางภูมิศาสตร์แล้ว และในแต่ละปีมีความต้องการจำนวนมาก” นายประพาส กล่าวและว่า
นอกจากจะส่งเสริมเรื่องของสับปะรดภูเก็ตแล้ว ทางจังหวัดภูเก็ตยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกไม้ดอกไม้ประดับให้เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตซึ่งไม้ดอกไม้ประดับนั้นสามารถปลูกได้ตลอดปี มีผลตอบแทนสูงแต่ที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโดยเฉพาะโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ บ้านจัดสรร และการปรับภูมิทัศน์ตลอดเส้นทาง ที่ต้องนำไม้ดอกไม้ประดับมาใช้เป็นองค์ประกอบในการตกแต่งอาคารสถานที่ต่างให้มีความสวยงาม ซึ่งในแต่ละปีต้องใช้จำนวนมาก พบว่าในแต่ละปีเกษตรกรสามารถจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ พันธุ์ไม้ ไม้กระถาง ให้เช่าไม้ดอกไม้ประดับกระถางสำหรับตกแต่งสถานที่พักและสถานบริการต่างๆ บริการจัดสวนภายในจังหวัดภูเก็ต
รวมถึงการส่งออกผลผลิตและพันธุ์ไม้ดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ฮอลแลนด์ เป็นต้น ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเกษตร กรและเครือข่ายไม้ดอกไม้ประดับที่มีการผลิต ซื้อขายหมุนเวียนในตลาดคิดเป็นมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท มีพื้นที่ปลูกประมาณ 300 ไร่
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-18 ก.ค.53 ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งนอกจากจะมีงานสับปะรดภูเก็ตและงานไม้ดอกไม้ประดับแล้วทางสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จังหวัดสงขลายังได้ร่วมจัดตลาดนัดโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวเขต 14 จังหวัดภาคใต้ด้วยเพื่อให้กลุ่มสมาชิกโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯนำผลผลิตและผลิตภัณฑ์มาทดสอบตลาด ร่วมเรียนรู้การตลาดเพื่อเปิดโอกาสทางการตลาดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารจัดการกลุ่มโดยนำผลิตภัณฑ์ อาหารแปรรูป ผ้าบาติก ผลิตภัณฑ์จากผ้า ข้าวซ้อมมือ มาร่วมจำหน่าย คาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะมีรายได้สะพัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ขอบคุณ...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น