วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สาวรัสเซียส่งเสียงดัง ตร.ตรวจบ้านพบกัญชา



สาวรัสเซียส่งเสียงดังรบกวนสร้างความรำคาญ ชาวบ้านแจ้งตำรวจฉลอง จ.ภูเก็ต ตรวจสอบ เจอกัญชา นำตัวสงบสติอารมณ์ก่อนแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ 
          เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 15 ส.ค.56  ร.ต.ต.สุทธิชัย กังวาลเกียรติกุล รอง สวป.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 5/17 ม.6 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีเหตุทะเลาะวิวาท และส่งเสียงดังรบกวนสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ขอให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลําดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง
      
       เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ มีหญิงสาวชาวต่างชาติคนหนึ่งกำลังโวยวายส่งเสียงดังลั่น และกำลังทุบรถยนต์กระบะจนเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปห้ามปราม ในระหว่างนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวก็ได้วิ่งเข้าไปในบ้าน และหยิบกัญชามาให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ฉลอง
      
       แต่ในระหว่างที่กำลังนำตัวหญิงสาวคนดังกล่าวมาที่สถานีตำรวจภูธรฉลองด้วยรถยนต์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพยายามที่จะกระโดดลงจากรถ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวไว้ได้ทัน และยังออกอาการโวยวาย ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปควบคุมเพื่อให้สงบสติอารมณ์ ซึ่งจากการสอบสวนทราบชื่อภายหลังคือ น.ส. NADECZDA KARPLYUK อายุ 28 ปี สัญชาติรัสเซีย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งขอกล่าวหามียาเสพติดประเภท 5 กัญชาไว้ในครอบครองเพื่อเสพต่อไป


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กระบะขยี้ดีเจเสียงใต้ดับ ลากร่างที่อยู่ใต้ท้องรถไกล 700 เมตร



กระบะขยี้ดีเจเสียงใต้ดับ ลากร่างที่อยู่ใต้ท้องรถไกล 700 เมตร แถมเฉี่ยว จยย.-รถยนต์เก๋งเสียหาย ก่อนเผ่นหลบหนี แต่กรรมติดจรวดป้ายทะเบียนตกที่เกิดเหตุ ตร.แจ้งสกัดจับกุม แต่ได้ขับรถคันที่ก่อเหตุเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา

           พ.ต.ต.เฉลียว ท้ายฮู้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนรถจักรยานยนต์หลายคัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อเมา เหตุเกิดที่บริเวณถนนเทพกระษัตรี ขาเข้าเมืองภูเก็ต ใกล้โรงแรมสะปำอิน ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลเกาะแก้ว เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ศูนย์นเรนทรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต รุดไปตรวจสอบ
      
       ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กลร 295 ภูเก็ต จอดล้มอยู่ในเลนของรถจักรยานยนต์ สภาพป้ายท้ายถูกเฉี่ยวชน ตะกร้าด้านหน้ายุบพัง เห็นกระเป๋าเป้ใบใหญ่สีดำตกอยู่ 1 ใบ นอกจากนั้น ยังพบป้ายทะเบียนรถคู่กรณีหมายเลขทะเบียน บน 2772 ภูเก็ต ตกอยู่ที่เกิดเหตุอีกด้วย ห่างกันประมาณ 700 เมตร พบร่าง นายเทอดพงศ์ พุทธาพิทักษ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 269 ม.2 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพนักงานของเสียงใต้เรดิโอ คลื่น 100.25 และทำงานในตำแหน่งเป็นผู้ประสานงานรายการ ทางคลื่น Blue Wave เอฟเอ็ม 90.5 เมกะเฮิรตซ์ และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต อาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน
          จากการตรวจสอบบาดแผลตามร่างกายมีความรุนแรงมากคือ ซี่โครงหัก เลือดคั่งในปอด และขาหัก รวมทั้งหมดสติด้วย ดังนั้น แพทย์และพยาบาลต้องพยายามปั๊มหัวใจ และให้ออกซิเจน แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
      
       จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งสกัดรถยนต์กระบะสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บน 2772 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถคู่กรณีหลังจากชนแล้วได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งตำรวจทุกสถานีในจังหวัดภูเก็ต แต่ทราบว่าในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการติดต่อจากเจ้าของรถ ได้เข้าไปมอบตัว และได้นำรถคันที่เกิดเหตุมาด้วย สภาพรถด้านหน้ายุบ ตรวจสอบพบว่ามี นายอาหมาด เหมวงศ์ อายุ 58 ปี ชาวตำบลป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นคนขับ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
      
       จากการสอบสวนทราบว่า นายเทอดพงศ์ พุทธาพิทักษ์ อายุ 29 ปี ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจากบ้านพักที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถยนต์คันดังกล่าวได้เฉี่ยวบริเวณป้ายท้ายทำให้รถล้ม จากนั้นก็ได้ลากเอาร่างของ นายเทอดพงศ์ ที่ติดอยู่ใต้ท้องรถไปห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 700 เมตร ก่อนที่รถยนต์คันดังกล่าวจะเสียหลักเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ และรถยนต์เก๋งอีก 1 คัน ใกล้ที่เกิดเหตุจนได้รับความเสียหาย จากนั้นร่างของนายเทอดพงศ์ ที่ติดอยู่ใต้ท้องรถก็หลุดออกจากใต้ท้องรถ ก่อนที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวจะขับหลบหนีจากที่เกิดเหตุ ก่อนที่ชาวบ้านจะแจ้งเจ้าหน้าที่นำร่างของ นายเทอดพงศ์ ส่งรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด ส่วนคนขับรถยนต์กระบะคู่กรณีได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนี ก่อนเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนในเวลาต่อมา


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

“แก๊งตบหัว” ออกอาละวาดทำร้ายประชาชน ตร.เมืองภูเก็ตเร่งตามจับ



ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครภูเก็ตเดือดร้อนหนัก เจอ แก๊งตบหัวออกอาละวาด ก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนที่มาออกกำลังกาย และพนักงานกวาดขยะของเทศบาลนครภูเก็ตต่อเนื่อง ด้านผู้กำกับ สภ.เมือง เผยหลังรับแจ้งส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรม พบตระเวนก่อเหตุหลายที่ เบื้องต้นนำตัวกลุ่มวัยรุ่นมาสอบสวน

          จากกรณีมีเหตุการณ์ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากเหตุแก๊งวัยรุ่นออกอาละวาดตบหัว และทำร้ายร่างกายประชาชนที่มาออกกำลังกายตามสวนสาธารณะในเขตเทศบาลนครภูเก็ต และพนักงานกวาดขยะของเทศบาลนครภูเก็ต จนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อประมาณ 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากทางเทศบาลนครภูเก็ต ว่า มีกลุ่มวัยรุ่น แก๊งตบหัวทำร้ายร่างกายประชาชนออกอาละวาดสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่มาออกกำลังกาย และทำงานในช่วงหัวรุ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่คนไม่ค่อยพลุกพล่าน
      
       โดยแก๊งวัยรุ่นดังกล่าวตระเวนขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามที่ต่างๆ เมื่อเจอคนที่วิ่งออกกำลังกาย หรือพนักงานเทศบาลที่กำลังกวาดขยะ รวมทั้งคนที่ขับรถไปมาก็จะใช้มือตบเข้าไปที่ศีรษะ และขับรถจักรยานยนต์ผ่านไปอย่างหน้าตาเฉย หลังได้รับแจ้งก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปตรวจสอบติดตามจับกุมแก๊งวัยรุ่นดังกล่าว ซึ่งแก๊งเหล่านี้จะย้ายสถานที่ในการก่อเหตุไปเรื่อยๆ ถ้าเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่จุดใดก็จะไม่ก่อเหตุ และย้ายไปก่อเหตุที่จุดอื่นแทน ซึ่งมีทั้งสวนสาธารณะสะพานหิน วงเวียนหอนาฬิกา ถนนย่านพูนผล โดยเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ
      
       พ.ต.อ.เสริมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของแก๊งวัยรุ่นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ค.56 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยจำนวนหนึ่ง จึงได้ติดตามกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยดังกล่าว และเชิญตัวมาจากบ้านเพื่อสอบสวน จำนวน 5-6 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 15-17 ปี เพื่อสอบสวนในเบื้องต้น ถ้าพบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิดก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น แก๊งตบหัวทำร้ายร่างกายเข้ามาแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นักท่องเที่ยวต่างชาติฝืนธงแดงเล่นน้ำหาดกะรน ถูกคลื่นซัดจมดับ



นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอายุประมาณ 35 - 40 ปี ฝ่าฝืนธงแดงและคำเตือนของเจ้าหน้าที่ที่ ลงเล่นน้ำช่วงมรสุม ถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดจมน้ำต่อหน้าต่อตา ขณะที่บีชการ์ดพยายามเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่ทันเสียชีวิตก่อนนำกลับเข้าฝั่ง
       
       เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 22 ก.ค.56  ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ประคองเกื้อ พนักงานสอบสวน สภ.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต รับแจ้งว่ามีเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.พาชัย มัธยันต์ รองผกก.ป.สภ.กะรน พ.ต.ต.ธีรเดช จิรักษา สว.สส. สภ.กะรน ด.ต.สุรสิทธิ์ สุขไกร ผบ.หมู่งานจราจร สภ.กะรน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย รุดไปตรวจสอบ
      
       ที่เกิดเหตุเป็นชายหาดชื่อดังของจังหวัดภูเก็ตเห็นที่บริเวณชายหาดมีธงแดงปักเรียงรายตลอดแนวชายหาด ที่ชายหาดดังกล่าวพบศพนักท่องเที่ยวเพศชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 35 - 40 ปี ไม่สวมเสื้อ สวมกางขาสั้นเพียงตัวเดียว เห็นที่บริเวณปากมีน้ำลายฟูมออกมา ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตต่อไป
      
       จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินทางลงมาที่หาดกะรนเพียงคนเดียว เพื่อลงเล่นน้ำ ในขณะนั้นก็มีบีชการ์ดและผู้ประกอบการหน้าหาดกะรนได้เตือนผู้ตาย ว่า ห้ามลงเล่นน้ำทะเลเด็ดขาด เพราะอาจะเกิดอันตรายได้ เนื่องจากคลื่นลมแรงมาก ประกอบกับมีธงแดงปักอยู่เตือนห้ามลงเล่นน้ำตลอดแนวชายหาด แต่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไม่ยอมเชื่อฟัง จึงลงเล่นน้ำท่ามกลางคำเตือนของเจ้าหน้าที่ ระหว่างนั้นเกิดคลื่นลูกใหญ่พัดเข้าฝั่งลากผู้ตายลงกลางทะเล เจ้าหน้าที่บีชการ์ดได้ลงไปช่วยเหลือแต่ไม่ทัน จนกระทั่งจากนั้นได้ช่วยเหลือขึ้นมาได้ ก็ทราบว่าเสียชีวิตแล้ว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกประชาสัมพันธ์ให้โรงแรมในตำบลกะรนทราบ ว่าโรงแรมไหนมีนักท่องเที่ยวหายไปบ้าง เพื่อจะได้สอบถามว่าผู้ตายเป็นใครและจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่สถานทูตทราบต่อไป


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฮอนด้างานเข้า! สาว ผจก.ห้างโลตัส ขู่จะทุบเก๋งแจ๊ซโชว์สื่อหลังรถมีปัญหา




สาว ผจก.ห้างโลตัส ควงน้องชายขู่จะทุบกระจกรถเก๋งป้ายแดงโชว์สื่อ หลังถอยมาใช้งานเพียง 1 เดือน เกิดปัญหาน้ำมันรั่วเข้าบริเวณพรมวางเท้าเบาะหลัง ด้านผู้จัดการศูนย์ฯ รุดไกล่เกลี่ย สรุปทางฮอนด้ายอมซื้อรถเก๋งคันดังกล่าวคืน ผู้เสียหายจึงยอมรับในเบื้องต้น
      
       เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ก.ค.56 ที่หน้าบริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด ตัวแทนผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า ในจังหวัดภูเก็ต สาขาเจ้าฟ้า ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต น.ส.สุภาพรรณ บัวเมือง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.6 ต.พวงนคร อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายเชาวลิต บัวเมือง อายุ 30 ปี น้องชาย ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮ้อนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ป้ายแดง มาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อมาทุบโชว์สื่อมวลชน หลังซื้อรถมาได้เพียง 1 เดือน แต่เกิดปัญหารถมีน้ำซึมเข้าบริเวณเบาะนั่งหลังข้างคนขับ มีการมาซ่อมแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ดีขึ้น จึงเรียกร้องให้ทางบริษัทเปลี่ยนรถคันใหม่ให้เพราะเสียความรู้สึก
      
       นายเชาวลิต บัวเมือง อายุ 30 ปี กล่าวว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถของ น.ส.สุภาพรรณ บังเมือง พี่สาว ทำงานเป็นผู้จัดการห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาสุราษฎร์ธานี ซื้อรถคันนี้ตามโครงการรถคันแรกของรัฐบาล โดยได้ซื้อมาจากบริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด สาขาเจ้าฟ้า จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในราคา 660,000 บาท หลังจากซื้อก็เกิดปัญหาน้ำซึมเข้ามาที่บริเวณเบาะหลังข้างคนขับ คาดว่าบังโคลนหลังรั่ว จึงได้นำรถกลับมาเข้าศูนย์ดังกล่าว และช่างก็ซ่อมให้โดยช่างบอกว่า ห้ามนำรถไปล้างภายใน 2-3 วัน หลังซ่อม ตนก็ได้ทำตามคำปรึกษาของช่าง เพราะหวังว่ารถที่ซื้อมาให้ป้ายแดงที่พี่สาวเก็บเงินค่อนชีวิตซื้อมาไม่น่าจะเกิดปัญหา แต่เมื่อนำขับกลับมาใช้กลับเกิดน้ำซึมเข้ามามากกว่าเดิม จึงตัดสินใจพาพี่สาวกลับมาที่ศูนย์ดังกล่าวเพื่อให้ผู้บริหารบริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากไม่มีการรับผิดชอบก็จะทุบรถโชว์ต่อหน้าสื่อมวลชนทันที เพราะเสียความรู้สึกกับการซื้อรถยี่ห้อดังกล่าวอย่างมาก
      
       จากนั้น ผู้บริหารบริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด สาขาดังกล่าว ได้เรียกตน และพี่สาวเข้าไปเจรจา ผลปรากฎว่า ทางฮอนด้า ออโตโมบิล กรุงเทพมหานคร จะซื้อรถคันดังกล่าวคืน ตนก็ยินดีที่เขาซื้อคืน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเสียเวลาได้ ซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นรถในโครงการรถคันแรก ซึ่งหากเขาซื้อคืนก็จะทำให้เสียสิทธิในส่วนนี้ไป และจะไม่ซื้อรถยี่ห้อดังกล่าวแล้ว เพราะความรู้สึกเสียไปอย่างมากกับรถบริษัทนี้
      
       ด้าน นายมนต์ทวี หงษ์หยก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด ได้กล่าวภายหลังการเจรจากับผู้เสียหายว่า หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นได้รายงานไปยังฮอนด้า กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทราบเรื่อง โดยทางกรุงเทพฯ มีมติว่าจะซื้อรถคันดังกล่าวคืน ซึ่งทางผู้เสียหายก็พอใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่วนสาเหตุนั้นเกิดจากสาเหตุใดต้องรอทางผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอีกครั้ง

ข้อมูลจาก..ASTV ผู้จัดการภาคใต้