สำหรับโครงการกะตะรอยัล คอนโดมีเนียม เป็นโครงการก่อสร้างอาคารพักอาศัยขนาดใหญ่ จำนวน 7 ชั้น หลายยูนิต และตั้งอยู่กลางชุมชนดั้งเดิมของประชาชนในพื้นที่ตำบลกะรน ซึ่งปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างในชั้นที่ 5 และหากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จจะบดบังทัศนียภาพของเกาะปู และหาดกะตะ ทำให้ทัศนียภาพของเกาะปู และหาดกะตะซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของท้องถิ่นและเป็นจุกขายให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต สูญเสียไปโดยสิ้นเชิง และหากปล่อยให้โครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชารอบๆพื้นที่โครงการ
ที่สำคัญโครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ ย่อมมีความต้องการใช้น้ำจืดเป็นจำนวนมากซึ่งจะเกิดผลกระทบกับการอุปโภคบริโภคน้ำของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากในพื้นที่ตำบลกะรนเองประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำบริโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งของทุกปีอยู่ก่อนแล้ว รวมทั้งขนาดและที่ตั้งของถนนทางเข้าโครงการไม่เหมาะสมกับโครงการขนาดใหญ่ เนื่องจากถนนซอยปฎัก 2 กว้างเพียง 5 เมตร ไม่ถึง 10 เมตร ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งยังไม่มีคูระบายน้ำริมถนนและทางเข้าโครงการอยู่ในจุดอันตรายเนื่องจากจุดรอเลี้ยวเข้าโครงการอยู่ในช่วงโค้งลงเขากะตะซึ่งปกติก็เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง
สิ่งสำคัญคือการก่อสร้างของโครงการดังกล่าวไม่ปฎิบัติตามกฎหมายที่บัญญัติบังคับใช้ เช่น กฎกระทรวงฉบับที่ 33 พ.ศ.2535 ออกความใน พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 เรื่อง “อาคารสูง” รวมทั้งการก่อสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่ ได้ก่อเกิดมลพิษทางอากาศ เกิดฝุ่นละอองจำนวนมากจากการก่อสร้าง การขนวัสดุ และมีเสียงดัง ซึ่งมาตรา 67 วรรคสองของรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน จะกระทำมิได้ เว้นแต่ได้มีการศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ แต่ที่ผ่านมาชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกโครงการ ส่วนใหญ่ไม่ทราบเรื่องมาก่อน
พวกตนในฐานะตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนขอเรียกร้องต่อทางจังหวัดให้สั่งระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวในทันที พร้อมทำการตรวจสอบว่ามีการอนุญาตก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายผังเมืองและ พรบ.ควบคุมอาคารหรือไม่อย่างไร และให้มีการจัดทำ ข้อตกลงระหว่างการก่อสร้าง ระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ที่อาศัยในละแวกใกล้เคียงโครงการ ขอให้มีการควบคุมการก่อสร้างให้มีการคลุมอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ป้องกันเศษวัสดุตกหล่นลงมาสร้างความเสียหายแก่ผู้ที่อาศัยในละแวกนั้น สุดท้ายให้มีการเปิดเผยเอกสารการขออนุญาตการก่อสร้างในโครงการทั้งหมดต่อสาธารณชน
ด้านนายตรี อัครเดช รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้ ว่า เท่าที่ทราบการก่อสร้างโครงการดังกล่าวผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมของทางจังหวัดเมื่อปี 2551 แต่เมื่อมีการร้องเรียนมาตนจะนำเรื่องเสนอทางผู้ว่ารากชารจังหวัด และทำหนังสือแจ้งไปยังทางท้องถิ่น อาทิ เทศบาลตำบลกะรนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งไปดำเนินการตรวจสอบ ว่าการก่อสร้างมีการอนุญาตถูกต้องและปฎับิตตามเงื่อนไขการรับอนุญาตหรือไม่ ส่วนเรื่องการบดบังทัศนียภาพตามที่ร้องมานั้นคงต้องนำมาพิจารณาร่วมกันในระดับจังหวัดอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
ข้อมูลจาก ส.ปชส.ภูเก็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น