เมื่อเวลาประมาณ10.00 น.วันที่8กุมภาพันธ์นี้หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลรัษฎา อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ตรับแจ้งจากลูกเรือพิชัยถาวร6 เรืออวนลาก ที่จอดลอยลำอยู่บริเวณหน้าแพ ป.พิชัย ท่าเทียบเรือรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ตว่าเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ขึ้นจากห้องเครื่องเรือและไม่สามารถที่จะดับเพลิงได้ จึงขอสนับสนุนให้ส่งรถดับเพลิงเข้ามาสกัดเพลิงและช่วยเหลือด้วย และหลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายก เทศ มนตรีตำบลรัษฎาทราบพร้อมสั่งการให้นายรัตตพงศ์ รักษาธรรม เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลรัษฎานำเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงและรถน้ำจำนวน 3 คันและทางงานบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครภูเก็ต ร่วมจัดรถน้ำและรถดับเพลิง สนับสนุนเพิ่มอีก 2 คัน มุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุ นอกจากนี้มีเรือประมงที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ อีก 3 ลำ พยายามแล่นเข้าไปใกล้เพื่อฉีดน้ำและใช้เชือกผูกและลากอออกไปบริเวณกลางคลองท่าจีน เพื่อไม่ให้เรือที่เกิดเพลิงไหม้อย่างต่อเนื่องเพราะมีลมกระโชกแรง และเป็นสาเหตุที่เพลิงจะลุกลาม ไปที่เรือที่จออยู่โดยรอบได้ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ตยังได้มีการส่งเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำ63 ไปคอยอำนวยความสะดวกให้ด้วย
สำหรับที่ตั้งของแพ ป.พิชัย ตั้งอยู่ภายในซอยแพชัยทวีกิจ ที่เป็นที่ตั้งของแพปลาต่างๆ โดยบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในทะเลด้านหน้าแพ ป.พิชัย ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ไปถึงพบควันไฟลอยออกมาจากห้องเครื่องของเรือพิชัยถาวร 6 และมีเปลวไฟลุกไหม้ออกมาเป็นระยะๆ ประกอบกับมีลมกระโชกแรงและมีเชื้อเพลิงอยู่ใกล้จุดลุกไหม้ในเวลาต่อมาเพลิงจึงโหมไหม้เรือเกือบทั้งลำ ในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำเข้าไปสกัดเพลิงเพื่อมิให้ลุกไหม้ไปยังเรือประมงลำอื่นๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและพยายามใช้เชือกผูกเรือลำเกิดเหตุและลากจูง ให้พ้นรัศมี ที่เป็นอันตราย สำหรับเรือลำอื่นๆ ที่จอดอยู่ อย่างไรก็ดีในที่สุดสามารถแยกออกไปจากกลุ่มเรือส่วนใหญ่ได้ แต่เพลิงลุกไหม้เรือจนเสียหายเกือบหมดทั้งลำโชคดีที่ภายในเรือลำไม่มีลูกเรืออาศัยอยู่ และมีการขนย้ายถังแก๊สออกมาจากในเรือหมดแล้ว ในเบื้องต้นยังไม่สามารถที่จะประเมินค่าความเสียหายได้
นายอังกูร บูรพาคุณากร ผู้จัดการฝ่ายซ่อมเรือ บริษัท ป.พิชัยนาวา จำกัด กล่าวว่า เรือลำเกิดเหตุเป็นของบริษัทป.พิชัยนาวาจำกัดเป็นเรืออวนลากน้ำลึก มีความยาวประมาณ 60 ฟุต ปกติแล้วจะนำออกไปทำประมงบริเวณรอบเกาะภูเก็ต ก่อนเกิดเหตุเครื่องยนต์ขัดข้องจึงจอดลอยลำเพื่อซ่อมแซมมาได้ประมาณ 7 วัน สำหรับสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้เรือนั้นได้รับแจ้งจากลูกน้องที่ทำงานอยู่ในเรือว่าระหว่างที่ช่างทำการเชื่อมท่อไอเสียปรากฏว่าได้มีสะเก็ดไฟหล่นลงไปในห้องเครื่องยนต์ ที่มีน้ำมันและเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย ผู้จัดการฝ่ายซ่อมเรือ บริษัท ป.พิชัยนาวา จำกัด กล่าวว่า ในเบื้องต้น ลูกเรือและเพื่อนเรือประมงข้างเคียงได้พยายามช่วยกันดับเพลิงแต่เอาไม่อยู่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครถภูเก็ตและเทศบาลตำบลรัษฎาเข้ามาช่วยเหลือ สำหรับช่างที่ซ่อมเรือนั้นได้อพยพขึ้นฝั่งมาแล้วทั้งหมด รวมถึงลำเลียงถังแก๊สต่างๆ ด้วย แต่ยังคงมีถังบรรจุน้ำมันอยู่ภายในเรือจำนวนประมาณ 700-800 ลิตร ส่วนของความเสียหายนั้นยังไม่สามารถที่จะประเมินได้
อย่างไรก็ตามทาง ร.ต.อ.กิติภูมิ ถิ่นถลาง ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ซึ่งได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุด้วย และได้มีการจัดทำบันทึกรายละเอียดหลักฐานต่าง ๆยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งเป็นอุบัติเหตุ แต่จะได้ตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง โดยขอให้วิทยาการตำรวจภูธรเขต 44 ภูเก็ตมาช่วยตรวจสอบต่อไป
ข้อมูลจาก :: ชัยวุฒิ พวงสุวรรณ สวท. ภูเก็ต
-----------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น