เกิดเหตุดินสไลด์ทับร่างคนงานขณะกำลังสร้างกำแพงในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย
เมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 6 ก.พ.56 ร.ต.ท.ธวัชชัย สีไหม ร้อยเวร สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งมีเหตุดินสไลด์ทับร่างคนงานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างกำแพงดิน ที่บริเวณถนน 50 ปี ซอยนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ รอง ผกก.ป.สภ.กะทู้ นำกำลังชุดสอบสวนสายตรวจ หน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และโรงพยาบาลป่าตอง เดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ พร้อมประสานไปยัง นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และนายสุรพล บัวแก้ว ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองป่าตอง สั่งการ และนำเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองป่าตอง เทศกิจเทศบาลเมืองป่าตองไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ติดกับถนน 50 ปี ต.กะทู้ อ.กะทู้ พบร่างของผู้เสียชีวิตนอนจมกองดินจนมิด ทราบชื่อ นายสนิท ลิพอนเขต อายุ 45 ปี บริเวณไม่ไกลกันพบร่างของผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ นายหวิด อินทร์ทอง อายุ 72 ปี มีดินทับอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือโดยพยายามเอาดินออกจากร่าง และรีบนำส่งโรงพยาบาลป่าตองต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนงานประมาณ 7-8 คน ช่วยกันก่อกำแพงกั้นดินอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งค่อนข้างลาดชัน ในขณะเดียวกัน ก็มีการใช้รถแบ็กโฮขนาดเล็กขุดตักดินไปด้วย และขณะที่คนงานกำลังทำงานปรากฏว่า ดินที่อยู่ด้านบนได้สไลด์ลงมา และทับร่างของคนงานจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนต่อไป
ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ติดกับถนน 50 ปี ต.กะทู้ อ.กะทู้ พบร่างของผู้เสียชีวิตนอนจมกองดินจนมิด ทราบชื่อ นายสนิท ลิพอนเขต อายุ 45 ปี บริเวณไม่ไกลกันพบร่างของผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ นายหวิด อินทร์ทอง อายุ 72 ปี มีดินทับอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือโดยพยายามเอาดินออกจากร่าง และรีบนำส่งโรงพยาบาลป่าตองต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนงานประมาณ 7-8 คน ช่วยกันก่อกำแพงกั้นดินอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งค่อนข้างลาดชัน ในขณะเดียวกัน ก็มีการใช้รถแบ็กโฮขนาดเล็กขุดตักดินไปด้วย และขณะที่คนงานกำลังทำงานปรากฏว่า ดินที่อยู่ด้านบนได้สไลด์ลงมา และทับร่างของคนงานจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนต่อไป
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น